2281644335_cf8a14e08d_z

“ดอกกุหลาบ” สำคัญแค่ไหนในการจีบกัน?

การให้ของขวัญนับเป็นการส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายหนึ่งรับรู้ได้ว่า เรารู้ใจเขา หรือเขาเป็นคนพิเศษของเรา แล้วเราควรจะเลือกของขวัญอย่างไร จึงจะเพิ่มโอกาสที่จะจีบสาว(หนุ่ม)ติดกัน แล้วราคาล่ะ สำคัญหรือไม่ บทความนี้จะตอบคำถามเหล่านี้ให้เรา

……….


นบทความเรื่อง แน่ใจเหรอว่า “การให้ของขวัญ” เป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ? ที่ [เสด-ถะ-สาด].com เคยนำเสนอไปแล้ว ให้ข้อสรุปว่า การให้ของขวัญ (Gift-giving) ในช่วงเทศกาลต่างๆ ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อระบบเศรษฐกิจมหาศาล อันเนื่องจากของขวัญที่ให้แก่กันส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นที่ต้องการของผู้รับ มูลค่าในมุมมองของผู้รับหรือประโยชน์ใช้สอยจริงจึงต่ำกว่าราคาของของขวัญ ข้อแนะนำของบทความก็คือ ควรให้เป็นเงินสด(หรือบัตรเงินสด) แล้วให้ผู้รับไปซื้อเอาเอง หรือถามผู้รับตรงๆ ว่าอยากได้อะไรเป็นของขวัญก็จะดีกว่า

อย่างไรก็ตาม คนจำนวนมากกลับไม่เลือกทำเช่นนั้น โดยเฉพาะยิ่งกับคนใกล้ชิด(อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง) ก็อาจจะลำบากใจที่จะให้บัตรเงินสดหรือต้องเอ่ยปากถามว่าอยากได้อะไร Mankiw (2006) อธิบายเรื่องการที่ผู้คนยังคงให้ของขวัญที่เป็นสิ่งของไว้ว่า แท้จริงแล้ว มันคือการส่งสัญญาณรูปแบบหนึ่ง (Signaling)

“ดอกกุหลาบ ดอกไม้สื่อแทนความรัก (ภาพโดย Paul Vallejo @flickr)”


เนื่องจากการให้ของขวัญเป็นรูปแบบหนึ่งของสถานการณ์ที่มีข้อมูลข่าวสารไม่สมมาตร (Asymmetric Information) นั่นคือ ผู้ให้ของขวัญไม่รู้ความต้องการของผู้รับดีเท่ากับตัวผู้รับเอง ดังนั้น การเลือกของขวัญที่ถูกใจผู้รับจึงเป็นการส่งสัญญาณว่า “ฉันรู้ใจเธอนะ” นั่นเอง รวมทั้ง หากไม่ได้ถูกใจผู้รับอย่างที่สุด (เพราะบางทีผู้รับก็ไม่ได้มีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษ) การให้เป็นสิ่งของ ซึ่งต้องเสียเวลาไปเดินเลือกมากกว่าการให้บัตรเงินสด ก็ยังคงทำหน้าที่ส่งสัญญาณถึงความพยายาม (Effort) ของผู้ให้อยู่ดี

อย่างไรก็ตาม มันก็อาจเป็นไปได้ด้วยว่า ราคาของสิ่งของที่ให้ทำหน้าที่ส่งสัญญาณบ่งบอกถึงระดับความรักให้กับคนบางกลุ่มด้วย [ระดับสัญญาณที่ส่งแปรผันตามราคา] ประเด็นคำถามต่อมาก็คือ ถ้าเป็นของขวัญที่ไม่ได้มีราคาอะไร ของขวัญจะยังคงประทับใจผู้รับซึ่งเป็นคู่รักของเราหรือไม่

……….

Lee, Niederle, Kim and Kim (2011) ทำการศึกษาถึงการส่ง(เฉพาะ)สัญญาณ(โดยไม่มีราคามาเกี่ยวข้อง)ว่ามันมีผลเพียงใดต่อความสำเร็จในการจีบกัน เขาเลือกศึกษาการนัดเดททางอินเตอร์เน็ต และพิจารณาถึงผลสัมฤทธิ์ของจำนวนดอกกุหลาบที่ถูกส่งไปทางเมล์ อีการ์ด หรือเครือข่ายออนไลน์อื่นๆ ทั้งนี้ เพราะกุหลาบที่ส่งออนไลน์เหล่านี้ฟรี จึงไม่ต้องคำนึงถึงราคาของดอกกุหลาบมาเกี่ยวข้อง

เขาร่วมมือกับบริษัทนัดเดทออนไลน์ (Online Dating Company) ของเกาหลี ทำการจัดงานพิเศษขึ้น ซึ่งมีผู้ร่วมงาน 613 คน และประมาณครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิง งานนัดเดทจัดขึ้นในปี 2008 ผู้เข้าร่วมงานจะเสียค่าใช้จ่าย 50 เหรียญ สรอ. และถูกจำกัดว่าต้องเป็นชาวเกาหลี จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ยังไม่เคยแต่งงาน อายุ 26-38 ปีสำหรับผู้ชาย และอายุ 22-34 ปีสำหรับผู้หญิง

ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับดอกกุหลาบเสมือน (Virtual Roses) ซึ่งเป็นเพียงภาพในคอมพิวเตอร์ คนละ 2 ดอก และมีประมาณ 20% ของผู้ร่วมงานจะได้รับ 8 ดอก ผู้ร่วมงานสามารถส่งคำขอเดท (Proposal) ได้ไม่เกิน 10 คน และสามารถรับคำขอเดทได้ไม่เกิน 10 คำขอ นั่นหมายความว่า แต่ละคนจะมีเดทได้ไม่เกิน 20 ครั้ง โดยแต่ละคนสามารถแนบดอกกุหลาบเสมือนให้กับใครก็ได้ และจำนวนเท่าไหร่ต่อฉบับก็ได้ แต่ต้องไม่เกินจำนวนที่ตนเองมี เพื่อแสดงความรู้สึกพิเศษ ดังนั้น จึงไม่มีใครเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่ม จะมีก็แค่ค่าเสียโอกาสจากจำนวนดอกกุหลาบที่มีจำกัดเท่านั้น

ในการทำการทดลอง Lee, Niederle, Kim and Kim ได้คำนึงถึงประเด็นที่ว่า ผู้หญิงอาจจะมีความกล้าส่งคำขอเดทน้อยกว่าผู้ชาย จึงได้ทำการกระตุ้นความกล้าของผู้หญิงด้วยการให้ดูตัวอย่าง รายละเอียด หรือกิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้ผู้หญิงมีความกล้ามากขึ้นด้วย กระบวนการนี้เรียกว่า การทำให้ผู้หญิงเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น (Girl Empowerment) ทั้งนี้เพื่อลดความโน้มเอียง (Bias) ของตัวแปรเพศในสมการ

……….

ตารางที่ ๑ แสดงผลของการประมาณค่าสมการ OLS ของความกล้าในการส่งคำขอเดท (Y: 1 หมายถึงมีการส่งคำขอเดท และ 0 หมายถึงไม่มีการส่งคำขอเดท) โดยตัวแปรที่ใช้ประกอบด้วย เพศ เพศชายที่มีดอกกุหลาบ 8 ดอก เพศหญิงที่มีดอกกุหลาบ 8 ดอก การทำให้ผู้หญิงเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ผู้ส่งคำขอเดทที่มีเสน่ห์กลางๆ และผู้ส่งคำขอเดทที่มีเสน่ห์มาก

ผลของการประมาณค่าสมการยังคงยืนยันว่า ผู้ชายจะมีความกล้าในการส่งคำขอเดทมากกว่าผู้หญิง แต่ที่น่าสนใจคือ ผู้ชายที่มีดอกกุหลาบจำนวน 8 ดอกจะมีความกล้าส่งคำขอเดทมากกว่าผู้ชายที่ดอกกุหลาบเพียง 2 ดอกถึงประมาณร้อยละ 20-25 เลยทีเดียว

“ตารางที่ ๑ ผลการประมาณค่าสมการความกล้าในการส่งคำขอเดท”


เมื่อพิจารณาการตอบรับคำขอเดท ซึ่งถือได้ว่าเป็นขั้นหนึ่งของความสำเร็จในการเดท แสดงได้ตามตารางที่ ๒ แสดงผลการประมาณค่าสมการของการตอบรับคำขอเดท (Y: 1 หมายถึงมีการตอบรับคำขอเดท และ 0 หมายถึงไม่ตอบรับคำขอเดท) ซึ่งประมาณค่าด้วยสมการ 6 แบบ ซึ่งให้ผลสอดคล้องกันทั้งหมด

รายละเอียดของตัวแปรที่ใช้สามารถจำแนกเป็น Model A ที่ประกอบด้วยตัวแปรดอกกุหลาบ ผู้ส่งที่มีเสน่ห์กลางๆ (S_Middle) และผู้ส่งที่มีเสน่ห์มาก (S_Top) ขณะที่ Model B ที่ประกอบด้วยผู้ตอบรับคำขอเดทซึ่งมีดอกกุหลาบแนบมาที่มีเสน่ห์น้อย (R_Bottom Rose) ผู้รับคำขอเดทซึ่งมีดอกกุหลาบแนบมาที่มีเสน่ห์กลางๆ (R_Middle Rose) ผู้รับคำขอเดทซึ่งมีดอกกุหลาบแนบมาที่มีเสน่ห์มาก (R_Top Rose) ผู้ส่งคำขอเดทที่มีเสน่ห์กลางๆ และผู้ส่งคำขอเดทที่มีเสน่ห์มาก

ผลของสมการ Model A พบว่า นอกเหนือไปจากการเป็นคนที่มีเสน่ห์กลางๆ หรือสูงแล้ว การส่งดอกกุหลาบเพิ่มโอกาสที่จะได้ตอบรับคำขอเดทประมาณร้อยละ 3.5-5.5 และ Model B ชี้ให้เห็นว่า ดอกกุหลาบจะมีผลกับผู้รับคำขอเดทที่มีเสน่ห์กลางๆ อย่างชัดเจนกว่า และมากกว่าผู้รับคำขอเดทที่มีเสน่ห์น้อยหรือมาก ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะผู้รับคำขอเดทที่มีเสน่ห์น้อยได้รับดอกกุหลาบน้อยเกินไป จึงไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ชัดเจน ขณะที่ผู้รับคำขอเดทที่มีเสน่ห์มากอาจได้รับดอกกุหลาบมากจนไม่มีผลต่อการตัดสินใจตอบรับคำขอเดทของพวกเขา

“ตารางที่ ๒ ผลการประมาณค่าสมการโอกาสที่จะได้ตอบรับคำขอเดท”

……….

ข้อสรุปที่ชัดเจนของเรื่องนี้ก็คือ ดอกกุหลาบ เพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการขอเดทมากขึ้น โดยเฉพาะหากว่าผู้รับเป็นคนที่มีเสน่ห์ระดับกลางๆ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ดอกกุหลาบเสมือนก็ตาม ความลับของเรื่องนี้ก็คือ ดอกกุหลาบคือรูปแบบหนึ่งของการส่งสัญญาณถึงความรู้สึกพิเศษของผู้ให้ที่มีต่อผู้รับ ซึ่งความรู้สึกเป็นสิ่งที่สังเกตได้ยาก จึงต้องอาศัยการส่งสัญญาณ ดังที่ Mankiw เคยว่าไว้ และแน่นอนว่ามันอาจจะเป็นอย่างอื่นที่ส่งสัญญาณถึงความรู้สึกพิเศษได้ก็คงมีโอกาสประสบความสำเร็จไม่ต่างกัน เช่น ความห่วงใย คำว่ารัก การ์ดสวยๆ ตุ๊กตาน่ารักๆ เป็นต้น

นอกจากนี้ ของขวัญที่ถูกใจผู้รับจะส่งสัญญาณว่า “ฉันรู้ใจเธอนะ” ของขวัญที่หามาได้ยาก ใช้ความพยายามกว่าจะได้มา หรือทำเอง จะส่งสัญญาณว่า “ฉันพยายามเพื่อเธอนะ” หรือ “เธอเป็นคนพิเศษ (ฉันจึงพยายามขนาดนี้)” ซึ่งสัญญาณทั้งสองแบบที่ส่งนั้นสำคัญกว่าราคาของสิ่งของมากมายนัก [ยกเว้นอย่างนึงนะครับว่า ถ้าจะเลือกของขวัญที่ถูกใจ แต่อีกฝ่ายหนึ่งอยากได้ของแพง มันก็ช่วยไม่ได้อ่ะครับ - -" ]

“ตุ๊กตาหมี อีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการสื่อแทนความรู้สึกดีดี (ภาพโดย Jo Naylor @flickr)”


ในหมู่ผู้ชายนั้น ส่วนมากจะเขินกับการให้ดอกไม้ นี่ก็คงเป็นเหตุผลที่พูดกันต่อๆ มาว่า “จะจีบสาวก็ต้องใจกล้าหน้าด้านเท่านั้น” และเราก็มักจะเห็นกันด้วยว่าผู้ชายที่ใจกล้าๆ ก็มักจะจีบสาวติดมากกว่าด้วย นอกจากนี้ การส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ถึงความรู้สึกพิเศษนั้น ไม่ต้องอาศัยของแพงก็ได้ แม้แต่แค่ดอกกุหลาบออนไลน์ที่ไม่มีราคาใดใดก็ยังสามารถประสบความสำเร็จได้เลย

ดังนั้น [เสด-ถะ-สาด].com ก็ขอให้กำลังใจทั้งผู้ชายและผู้หญิงทุกคนในการส่งสัญญาณบอกถึงความรู้สึกพิเศษของตนให้อีกฝ่ายหนึ่งรับรู้นะครับ เพราะเขาอาจจะมีหรือเริ่มต้นที่จะมีความรู้สึกดีดีกับเราก็ได้ ^^






ที่มา
Gergory Mankiw, 2008. “The Economics of Gifts,” available online at GREG MANKIW’S BLOG.
Soohyung Lee & Muriel Niederle & Hye-Rim Kim & Woo-Keum Kim, 2011. “Propose with a Rose? Signaling in Internet Dating Markets,” NBER Working Papers 17340, National Bureau of Economic Research.

  • http://www.century.bloggang.com,http://www.centuryboy.com centuryboy

    เพิ่งเข้ามาอ่านบล็อกของคุณเป็นครั้งแรก มีเรื่องน่าสนใจดีครับ จะติดตามอ่านต่อไป

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      ขอบคุณมากครับ ^^

  • http://myblog1dotnet.wordpress.com jpmobile