marriage-cartoon-proposal

มูลค่า “สินสอด” ในงานแต่งควรเป็นเท่าไหร่ดี?

ในงานแต่งงาน หัวข้อที่ผู้หญิงมักหยิบยกขึ้นมาคือ “ควรจะเรียกสินสอดเท่าใด” เช่นเดียวกับผู้ชายว่า “ควรจะให้สินสอดเท่าใด” และเราเองก็มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยมาก การศึกษาเชิงประจักษ์ชิ้นนี้จะช่วยให้แนวทางกับเรา

……….


“การแต่งงาน” ในทางเศรษฐศาสตร์ นับว่าเป็นการสร้างข้อตกลงร่วมกัน (Binding Commitment) ระหว่างฝ่ายชายและฝ่ายหญิง และในวัฒนธรรมไทย “การให้สินสอด” ถือเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งของการแต่งงาน

“สินสอด” จัดเป็นราคาในทางเศรษฐศาสตร์ในรูปแบบหนึ่งของข้อตกลงแต่งงาน(หรือหมั้น) แต่ไม่ได้มีการซื้อขายผ่านตลาด (Non-Marketable Trade) จึงไม่มีราคาตลาด (Non-Market Price) และก็ไม่สามารถใช้วิธีการทั่วไปในการประเมินมูลค่าได้ ราคาของสินสอดจึงถูกกำหนดผ่านกระบวนการเจรจาต่อรอง เรียกว่า “การเจรจาสินสอด” โดยในการเรียกสินสอดของฝ่ายหญิง มักมีการตกลงเบื้องต้นก่อนขั้นตอนการเจรจาสู่ขอจริง ถ้าฝ่ายหญิงเรียกสินสอดที่สูงเกินไป ฝ่ายชายก็จะทำการต่อรอง จนกระทั่งได้มูลค่าสินสอดที่ฝ่ายหญิงพอใจ และฝ่ายชายสามารถจ่ายได้ ซึ่งปกติแล้ว การสร้างข้อตกลงร่วมกันก็สามารถนำไปสู่ความมีประสิทธิภาพได้ (Lundberg and Pollak, 2001)

เนื่องจาก “สินสอด” ไม่มีราคาทางตลาด ภศุ (2549) จึงใช้แบบจำลองเฮดโดนิค (Hedonic Pricing Model: HPM) เข้ามาอธิบาย โดยเป็นการผนวกเอาตัวแปรคุณลักษณะต่างๆ ของฝ่ายชาย และฝ่ายหญิงเข้ามาวิเคราะห์แทนที่จะเป็นตัวแปรของตลาด เพราะหาข้อมูลไม่ได้ และคู่บ่าวสาวก็ถือเป็นผู้ร่วมต่อรองราคาซึ่งกันและกัน

“มูลค่าของสินสอด” ภายหลังจากการต่อรองของทั้งสองฝ่ายจะอยู่ที่ระดับ “ราคาดุลยภาพ” (Equilibrium Price) [ในงานของภศุ มูลค่าและราคาของสินสอดเป็นสิ่งเดียวกัน] ขณะที่ “มูลค่าสินสอดที่ฝ่ายชายเต็มใจจะจ่าย” (Willingness to Pay) ก็จะไม่ได้จำเป็นต้องมีค่าเท่ากันกับ “มูลค่าสินสอดที่ฝ่ายหญิงพึงจะรับ” (Willingness to Accept) โดยแบบจำลองแยกวิเคราะห์ได้

……….

การศึกษาทำการเก็บข้อมูลในเขตกรุงเทพมหานคร ด้วยแบบสอบถามจากคู่แต่งงานจำนวน 220 คู่ หรือ 440 คน ประกอบกับการสัมภาษณ์เชิงลึก โดยมีข้อมูลของคู่แต่งงานตั้งแต่ปี 2526 ถึง 2550 ระยะเวลาที่คบหากันก่อนแต่งงานนานที่สุด 18 ปี และสั้นที่สุด 1 ปี เฉลี่ยประมาณ 5 ปีครึ่ง

“ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่างคู่บ่าวสาว (จากบทความ)”


[เนื่องจากเป็นการเก็บข้อมูลในช่วงปี 2549 ซึ่งราคาทองคำยังไม่สูงเท่าปัจจุบัน] มูลค่าสินสอดสูงที่สุดคือเกือบ 6.7 ล้านบาท และต่ำที่สุดคือ 1 หมื่นกว่าบาท เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาท จำแนกลงรายละเอียดได้ว่า มูลค่าเงินสดสูงที่สุดคือ 1.7 ล้านบาท เฉลี่ยอยู่ที่ 2.5 แสนบาท และทอง 99 บาท เฉลี่ยอยู่ที่ 10 บาท

“ข้อมูลทั่วไปของสินสอด (จากบทความ)”

……….

ผลการศึกษาพบว่า คุณลักษณะของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงที่มีผลต่อมูลค่าสินสอด ได้แก่ ระดับรายได้ ระดับการศึกษา การมีภาระรับผิดชอบต่อครอบครัว และการแต่งงานเป็นลำดับแรกของครอบครัว

ขณะที่ทรัพย์สินมีผลน้อยมาก และภาระความรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายในการแต่งงานและอาชีพไม่มีผลต่อมูลค่าสินสอด

“ผลการประมาณค่าสมการมูลค่าสินสอด (จากบทความ)”

* ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 90 ** ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95
โดยที่ แบบจำลองที่ 1 คือ แบบจำลองสมการเส้นตรงจากข้อมูลรวมฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
แบบจำลองที่ 2 คือ แบบจำลองสมการลอการึทึมจากข้อมูลรวมฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
แบบจำลองที่ 3 คือ แบบจำลองสมการลอการึทึมจากข้อมูลฝ่ายชาย
แบบจำลองที่ 4 คือ แบบจำลองสมการลอการึทึมจากข้อมูลฝ่ายหญิง

……….

ในแบบจำลองสมการเส้นตรง (สมการที่หนึ่ง) พบว่า เมื่อคู่แต่งงาน (ฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิง) มีระดับรายได้สูงขึ้น 1 บาท จะทำให้มูลค่าสินสอดเพิ่มขึ้น 2.205 บาท และเมื่ออายุของคู่แต่งงานสูงขึ้น 1 ปี จะทำให้มูลค่าสินสอดเพิ่มขึ้น 8,986.92 บาท หรือถ้าภูมิลำเนา เป็นคนกรุงเทพฯ มูลค่าสินสอดจะเพิ่มขึ้น 174,818.6 บาท

[ดูเหมือนว่าแต่งงานเร็วๆ ก็จะดี เพราะรายได้จะต่ำ และอายุก็น้อย มูลค่าของสินสอดก็จะต่ำไปด้วย]

การประมวลผลแบบแยกฝ่ายชายและฝ่ายหญิง(ของแบบจำลองสมการลอการึทึมแบบจำลองที่สามและสี่) ให้ผลการศึกษาบางประเด็นที่น่าสนใจ

  • เมื่อฝ่ายชายมีรายได้สูงขึ้น 1 เท่า จะเต็มใจจ่ายค่าสินสอดเพิ่มขึ้น 20% ขณะที่หากฝ่ายหญิงมีรายได้สูงขึ้น 1 เท่า จะต้องการเรียกค่าสินสอดเพิ่มขึ้น 32%
  • ระยะเวลาในการคบหา และ ตำแหน่งหน้าที่การงาน มีผลต่อความเต็มใจจ่ายค่าสินสอดเพิ่มขึ้นสำหรับฝ่ายชาย โดยไม่มีผลกับฝ่ายหญิง
  • ความเป็นคนกรุงเทพ และ ภาระความรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายในการแต่งงาน มีผลต่อความเต็มใจเรียกค่าสินสอดเพิ่มขึ้นสำหรับฝ่ายหญิง โดยไม่มีผลกับฝ่ายชาย

สำหรับคู่ที่กำลังจะแต่งงาน ขอเสนอให้ลองใช้แบบจำลองที่หนึ่งคำนวณมูลค่าสินสอด โดยการแทน”ค่าเฉลี่ย”ของคู่บ่าวสาวเข้าไปในสมการ

มูลค่าสินสอด = (2.2205 x รายได้ต่อเดือน) + (8986.92 x อายุ) + (174818.6 หากเป้นคนกรุงเทพฯ) – (454350.5 หากจบการศึกษาไม่เกินมัธยม/ปวช.) + (227064.1 หากแต่งงานเป็นลำดับแรกของครอบครัว) – (134160.8 หากมีภาระต้องดูแลครอบครัวอยู่) + (1890610 หากเป็นผู้บริหารระดับสูง)

[[เสด-ถะ-สาด].com ขอขอบคุณ Nanosoft ที่ได้เขียนโปรแกรมคำนวณมูลค่าสินสอดตามสมการข้างต้น เพื่อให้เพื่อนๆ ได้คำนวณกันง่ายๆ ลองดาวน์โหลดกันมาใช้ได้ ที่นี่ (สำหรับ windows เท่านั้นครับ) ^^]

……….

ยกตัวอย่างเช่น หากคู่บ่าวสาวมีรายได้เฉลี่ย 20,000 บาทต่อเดือน อายุเฉลี่ย 30 ปี ทั้งคู่เป็นคนกรุงเทพฯ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และแต่งงานเป็นคนแรกของครอบครัว แต่ต่างคนต่างก็ไม่ต้องเลี้ยงดูครอบครัวของตัวเอง และไม่ได้มีตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูง

ค่าสินสอดดุลยภาพก็จะอยู่ที่

(2.2205 x 20000) + (8986.92 x 30) + (174818.6) + (227064.1) = 715590.3 บาท

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอำนาจต่อรองของทั้งสองฝ่ายด้วย เช่น รูปร่างหน้าตาที่ต่างกันของคู่บ่าวสาว หรือความเจ้ากี้เจ้าการที่ต่างกันของพ่อแม่คู่บ่าวสาว ก็อาจทำให้มูลค่าสินสอดดุลยภาพเปลี่ยนแปลงไป

[อ้อ...อย่าลืมปรับเงินเฟ้อด้วยนะครับ ผ่านมา 5 ปีแล้วนับจากงานศึกษาชิ้นนี้สำเร็จ เงินเฟ้อปีละประมาณสัก 3.5% ก็จะเท่ากับ 715590.3x(1+0.035)^5 = 849896.8 บาท หรือประมาณ 8.5 แสนบาท ซึ่งคู่บ่าวสาวต้องตกลงกันให้ดีด้วยว่าจะเอาอัตราเงินเฟ้อประเภทใดมาคิด]

รวมทั้ง คู่ที่แต่งงานไปแล้ว ลองแทนค่าข้อมูลในวันแต่งงานดูเล่นๆ แล้วจะรู้ว่า ณ เวลานั้น ใครเป็นต่อ ใครเป็นรอง ใครชอบใครมากกว่ากัน ผ่านมุมมองของอำนาจต่อรอง แต่ก็แค่แทนค่ากันดูเล่นๆ นะครับ เพราะแม้เราอาจจะเคยเป็นรองมาเมื่อวันนั้น การใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขจนถึงวันนี้ ย่อมคุ้มกว่าแบบหาที่เปรียบไม่ได้นะครับ ^^






ขอขอบคุณ คุณดุสิต อิชยพฤกษ์ ที่แนะนำเอกสารฉบับนี้ และ รศ.ดร.วรเวศม์ สุวรรณระดา สำหรับคำชี้แนะครับ

ที่มา: ภศุ ร่วมความคิด (2549) “ถ้าฉันจะแต่งงาน ควรจะได้รับ/จ่ายสินสอดเท่าไร” การศึกษาเชิงประจักษ์การประเมินมูลค่าสินสอดด้วยแบบจำลองเฮดโดนิค, วิทยานิพนธ์ หลักสูตรเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ) คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.

featured image from here

  • http://www.facebook.com/profile.php?id=100000755451965 Taravut Changkarn

    มิหน้าถึงโสด เรามะมีตังค่าสินสอดนี่เอง สงสัยต้องเอารถมาค้ำ แล้วก็ซื้อทอง กะให้ค่าสินสอด
    55555555+

    • http://gravatar.com/roseishtar roseishtar

      ใช่ค่ะ “สินเชื่อเงินสด รถคุณช่วยได้” …… ลดต้น ลดดอก ….. (ก๊อปมาจากโฆษณา) ^_^”

      • งง

        เรื่องมากจริง เหลือเงินอาทิตย์ล่ะหนึ่งถึงห้าพัน กระหน่ำกะหรี่ไป ไม่ต้องเสียค่าสินสอด ผมต้องการแค่เสียบ ไม่ต้องการมีลูก ที่สำคัญเปลี่ยนกิน เปลี่ยนรสชาติได้ ไม่ต้องทนอยู่กับคนเดิมๆ อย่าลืมใส่ถุงด้วยนะ

  • http://www.facebook.com/jattiphon Jattiphon Yotwong

    เจอแบบนี้เข้าไปนี่ คงจะโสดไปอีกนาน

  • Blueboy

    น่าจะมี Excel ให้ คำนวณไปเลย ฮ่าๆๆๆ

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ อาจจะมีโอกาสได้พัฒนาในบทความต่อๆ ไปครับ

  • Naoto

    อ่านแล้วรู้สึกว่าได้ความรู้ดีครับ

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      ขอบคุณครับ ^^

  • holyboy

    มีตัวอย่างคำนวณแบบ ลอการทึม มั๊ยครับ

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      ลองใช้ค่า coefficient ของแบบจำลองที่สองดูครับ เพียงแต่ตัวเลขที่ใช้ต้อง take ln ก่อนครับ

  • http://www.facebook.com/wisaruts Wisarut Suwanprasert

    ตอนแรกที่อ่านผมคาดหวังว่าจะมีการแก้ Hedonic Pricing model เสียอีกครับ …

    อาจารย์คิดว่าการประมาณค่าโมเดลสมเหตุสมผลหรือไม่ครับ? และพอดีผมเห็นว่าการสรุปผลของการเปลี่ยนแปลงตัวแปรภายภายนอกถูกอ้างอิงมาจากหลายสมการที่ประมาณค่า ดังนั้นเราควรจะยึดถือตัวไหนเป็นหลักครับ?

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      ขอบคุณวิศรุตมากครับ

      ขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้มีการแก้ไขแบบจำลองใดใด เพราะไม่มีข้อมูลดิบ และยึดไว้ตามบทความ เพราะถือว่าผ่านการกลั่นกรองมาจนเป็นวิทยานิพนธ์แล้ว รวมถึงที่เลือกมา เพราะเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ (อย่างน้อยแค่ค่าเฉลี่ยก็น่าสนใจแล้ว) แต่มองเห็นประเด็นที่วิศรุตชี้ครับ บางครั้งถ้ามีคำวิจารณ์ตอนท้ายก็คงจะดีเหมือนกัน :)

      ขอตอบเป็นประเด็นไปนะครับ

      ๑) การประมาณค่าแบบจำลอง ถ้ากระจายตัวอย่างดีพอ + ถ้าทุกคนตอบตามความจริง (revealed preference) + ถ้าไม่นับปัจจัยสำคัญอื่น (เช่น ให้สินสอดไปก็คืนมา) ก็ถือว่าน่าจะสมเหตุสมผลครับ เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้เหมาะนัก กับการถือว่าสินสอดเป็นราคาของบริการแต่งงาน เพราะที่จริงเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งของการแต่งงานมากกว่า

      ๒) สมการ 1 และ 2 ทำหน้าที่เหมือนกัน เพียงแต่เป็น linear กับ logarithm ขณะที่สมการ 3 และ 4 ทำอีกหน้าที่หนึ่งคือเป็น willingness ของฝ่ายชายและหญิง ผมไม่มีตัวเลขค่าสถิติของสมการ เลยบอกทางสถิติไม่ได้ว่าสมการไหนดีกว่า แต่เข้าใจว่าผู้เขียนเลือกเฉพาะที่ significant ให้คงอยู่ในสมการ ส่วนคำอธิบาย ผมเลือกสมการที่ 1 มาอธิบายค่าเฉลี่ย เพื่อให้ง่าย และสมการที่ 2 กับ 3 มาอธิบายการเปลี่ยนแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์ของชายและหญิงแยกกันครับ

      • Bhasu Ruamkhuamkhit

        ถ้าลองอ่านงานเต็มๆ จะเข้าใจข้อยกเว้นหรือจุดด้อยของการศึกษานี้มากยิ่งขึ้นครับ ซึ่งก็เป็นอย่างที่อาจารย์บอกไว้ข้างบนครับ

  • bird

    ราคานี้จะลดตามอายุของเจ้าสาว

  • http://www.facebook.com/naru3 Naru Pan

    เพิ่งทราบก็วันนี้เองว่าการแต่งงานเป็นลำดับแรกของครอบครัวมีผลต่อมูลค่าสินสอด
    แล้วทำไมระยะเวลาในการคบหา ถึงมีผลกับความเต็มใจของฝ่ายชาย แต่ไม่มีผลกับความคาดหวังของฝ่ายหญิงล่ะคะอาจารย์

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      ถ้าอธิบายจากสมการ “น่าจะ”เป็นเพราะหากคบกันนานแล้ว ฝ่ายหญิงจะรู้สึกว่าสินสอดไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขณะที่ฝ่ายชายอาจจะรู้สึกว่าเมื่อคบกันนานแล้ว ควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบมากขึ้นครับ (หรือก็อาจไปซ้ำซ้อนกับรายได้ที่มากขึ้นก็เป็นได้ครับ)

      • http://www.facebook.com/ilookma Ilookma Fufu

        เห็นด้วยว่า ผู้หญิงน่าจะไม่คิดว่าสำคัญ หรืออีกนัยหนึ่ง การคบกันนานๆฝ่ายหญิงดูจะเสียเปรียบมากกว่า เพราะอายุที่สูงขึ้นและโอกาสในการเจอคนใหม่ลดลง ขณะเดียวกันความรักความผูกพันที่ฝายหญิงมีต่อตัวฝ่ายชายยิ่งมีมากขึ้น เงินทองจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอให้ได้แต่งกับคนที่รักก็พึงพอใจแล้ว และระยะเวลาที่คบหากันนานก็เป็นเสมือนตัวชี้วัดอย่างหนึ่งว่าฝ่ายชายนั้นรักจริง และมั่นคงในระดับหนึ่ง ดังนั้นเงินจึงไม่น่าจะใช่สิ่งสำคัญแล้ว

  • ถามจริงๆ

    ต่อไปทะเบียนสมรสมีวันหมดอายุ ต้องต่อทุก 3 ปี หากฝ่ายหญิงเป็นเหตุให้ทะเบียนสมรสหมดอายุ ต้องคืนสินสอด แบบนี้เสมอภาคดีไหม

  • http://www.facebook.com/ritthisak Ritthisak Rit Thapniwat

    ถ้าจะแต่งแล้วต้องคิดถึงขนาดนี้ แนะนำว่าอย่าแต่ง พาหนีเลย

  • http://gravatar.com/athipi mysterymisery

    คิดตามอัตราดอกเบี้ย MLR ที่ 7.25% เงินสินสอด 849896.8 บาท หมายความว่าทำงานเดือนละ20000แล้วต้องเอาเงินทั้่งหมดไปจ่ายเป็นค่าสินสอดทั้งหมด 26.183ปี!!!

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      - -”

  • shadow

    เรื่องขำำๆ เชิงวิชาการ ซึ่งใครๆก็รู้ว่ามันใช้ในชีวิตจริงไม่ได้หรอก 555+

  • ryu

    ทำไมถึงใช้ความรัก และความจริงใจเป็นสินสอดไม่ได้ครับ
    การให้เงินกับครอบครัวฝ่ายหญิง แล้วถึงได้ผู้หญิงมาเป็นเมีย ผมว่ามันแปลก ๆ

    • http://gravatar.com/roseishtar roseishtar

      อย่างน้อยก็เป็นการการันตีว่าหากแกทิ้งเค้า วันนึงฝ่ายหญิงสามารถเอาสินสอดที่เคยได้มาเลี้ยงตัวตอนถูกทิ้ง อันนี้เป็นวัฒนธรรมที่มีมานานเพราะเมื่อก่อนผู้หญิงไม่มีทางเลือกมากนัก

      • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

        น่าจะใช่ครับ มาจากวัฒนธรรมในอดีต ^^

    • TIF

      ถ้าผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวยอม ก็ไม่มีปัญหาครับ :)

  • วิน

    นี่ทำใน design of experiment ใน Minitab แน่เลย มีสมการสำเร็จด้วย …

  • http://www.mikeyx.com mikeyx

    @ryu says มันเป็นธรรมเนียม

  • http://www.facebook.com/puifay.p Puifay Phanjiraphak

    เกรงว่า หากคิดตามนี้ อาจจะต้องไปนั่งเล่นบนคานอยู่เป็นเพื่อนแม่ : )

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      อาจจะมีคนที่คำนวณเสร็จแล้วรีบมาขอในเร็ววันนะครับ

  • narin

    ชอบโมเดลนี้ครับ ขอแนะนำให้ทำประกันความเสี่ยงที่มูลค่าของเงินหรือทองจะสวิงไปมา ให้ล๊อควันแต่งงานไว้เลยโดยถืออัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ตกลงแต่งงาน จากนั้นขอให้พิจารณาผู้หญิงที่มีคุณลักษณะใกล้เคียงหรือมากกว่า เงื่อนไขน้อยกว่า แล้วนำไปต่อรอง หากต่อรองไม่สำเร็จ อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจได้

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      หุหุหุ ^^

  • http://www.jsptestkit.com/ testkit

    ต้องรีบแต่งเร็วๆ แล้วจิ ยิ่งอายุเยอะ หน้าที่การงานดี สินสอดแพงตามตัว คริคริคริ..

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      ^^

  • fuu-lamp

    คบกันไปมากกว่า3ปี ความรักจะน้อยลง ผู้ชายควรรีบลงทุน เพื่อสร้างอนาคต ยิ่งแต่งเร็ว ก็สร้างตัวเร็ว สินสอด ที่ให้ฝ่ายหญิง บางบ้านจะคืนให้บ่าวสาว ครึ่งนึง โดยเฉพาะภาคเหนือ

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

  • 0862994329

    เครียดเลย ไม่ตงไม่แต่งแล้ว

  • รังไหม

    คบกันนานแล้วก็โดนบอกเลิกลังไม่ทันได้เรียกสินสอดเลย

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      ขอให้กลับมาสมหวังไวไวครับ ^^

  • เบนซ์

    มิน่าเค้าถึงไม่ขอแต่งซะที คบกันจา 11-12 ปีแล้วTT

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      ขอให้ได้แต่งในเร็ววันครับ ^^

  • bee

    งี้ อยู่เปงโสดไปเหอะ คัยจะมาขอฟ่ะ…

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      ขอให้มีไวไวครับ

  • http://www.facebook.com/niramarn.jirode Niramarn Jirode

    ขอบคุนครับ ตาสว่างขึ้นเยอะ

    • http://setthasat.wordpress.com [เสด-ถะ-สาด].com

      อย่าลืมคำนวณให้ดีนะครับ อิอิ

  • http://www.facebook.com/pornchai.soda Pornchai Soda

    คิดกันยังงี้เลยหรอ

  • http://www.facebook.com/profile.php?id=100000089852546&ref=tn_tnmn เบิร์ด ผู้กอง

    ขอบคุณบทความดีๆที่มอบแก่กันครับ:)

    จากประสบการณ์ของตัวผมเองนะครับ เพิ่งแต่งงานปีนี้หมาดๆ

    สินสอด คือ จำนวนความมั่งคั่งที่จะมอบให้พ่อแม่ของหญิง เป็นการตอบแทนที่ยกลูกสาวให้แต่งงานกับชาย และเป็นการส่งสัญญาณว่า ฝ่ายชายมีความมั่งคั่งเพียงพอที่จะเลี้ยงดูหญิงและเลี้ยงลูกหลานได้

    ของหมั้น คือ ความมั่งคั่งที่มอบให้หญิง ส่วนมากนิยมใช้แหวนเพชร และเครื่องประดับต่างๆ เพื่อแสดงความมั่งคั่งของฝ่ายชาย เพื่อส่งสัญญาณว่า จะทุ่มเททรัพยากรเลี้ยงดูหญิง และมีปัญญาหาเงินเลี้ยงลูก

    ประเด็นที่ว่า สินสอด ของหมั้น ฝ่ายชายจะต้องใช้เงิน ทองเท่าไหร่ อันนี้ ใช้ปัจจัยหลายอย่างประกอบกันครับ

    แล้วแต่สถานการณ์ของฝ่ายชายกับ ฝ่ายหญิงเลยก็ว่าได้

    อาทิ อำนาจต่อรองของฝ่ายชายมีมาก เช่น ถ้าหญิงตกเป็นเมียของชายมาหลายปีแล้ว สังคมรับรู้ ทั้งหญิงเรียนน้อย บ้านยากจน อันนี้ เอาไก่สองตัวไปไหว้ผี ก็เป็นอันเสร็จพิธี แต่ถ้าชายกับหญิง คบกันลับๆ
    หญิงเรียนสูง บ้านรวย พ่อแม่หญิงมีหน้ามีตาในสังคม อันนี้ ฝ่ายชายคงต้องสละความมั่งคั่งจำนวนมาก เพื่อโอนให้ฝ่ายหญิง

    แต่ถ้าชายรักหญิงจริง แต่ยากจน ฝ่ายหญิงก็จะให้เงินฝ่ายชาย เพื่อให้ฝ่ายชายเอาเงินมาให้ฝ่ายหญิง วิธีนี้ ฝ่ายชาย ไม่เสียเงินสักบาท แต่ร่วมมือกับฝ่ายหญิงหลอกสังคมว่า ฝ่ายชายมีความมั่งคั่ง แต่งงานสมศักดิ์ศรี วิธีการนี้ก็เห็นใช้กันหลายคนแล้ว

    ถ้าฝ่ายชายร่ำรวย และ ฝ่ายหญิงร่ำรวย อันนี้ สินสอด ทองหมั้น จ่ายกันไม่อั้น แน่นอน

    ถ้าให้วิเคราะห์ลึกๆแล้ว การแต่งงาน เป็นการให้พันธสัญญาต่อสังคมของฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ว่าจะรักกัน ดูแลกันตลอดไป ทั้งสองฝ่ายย่อมมีพันธะผูกพันอย่างหนักแน่น จะเลิกกันง่ายๆไม่ได้

    บางคู่แต่งงานใหญ่โต ผ่านไปสองปีเลิกกันก็มี บางคนไหว้ผี ไม่เคยแต่งงาน แต่อยู่กินกันจนตายไปข้างหนึ่งก็มี

    เรื่องสินสอดทองหมั้น หรือ การแต่งงาน เป็นปัจจัยทางด้านการยอมรับทางสังคม แต่ไม่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของจิตใจชายหญิงมากเท่าไรนัก

    มูลค่าของสินสอดควรเป็นเท่าไร ส่วนตัวคิดว่า คำนึงถึงฐานะ-อาชีพของฝ่ายหญิง และ ความสามารถในการจ่ายของฝ่ายชาย เท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่ตายตัว แต่ถ้าหญิงอยากได้หน้าตาในงานแต่ง อันนี้คงต้องหาทางปั่นตัวเลขสินสอดให้สูงๆ หลอกแขกไปเลย ยังไงแขกก็ไม่มีทางรู้ความจริง

    สังคมไทย เป็นสังคมที่ยึดถือหน้าตาครับ ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดสินสอด

  • http://www.facebook.com/profile.php?id=100001975185050 Mhorphadungkul Ruthai

    อะไรจะขนาดนั้น

  • คนแต่งงานเล็กๆๆที่มีลูกสองแล้วจ้า

    ผมว่าความเห็นของผู้กอง เบิร์ด ครบครันครับ แต่งแล้วอย่าเลิกกันง่ายๆละกัน สงสารลูกๆนะ คนเราเอาอัตตาของกูตัวกูมากๆๆ ครอบครัวก็ไม่สงบสุข หากอยากมีหลายคน ก็หาวิธีอยู่แบบครอบครัวหย่ายๆเลย แต่ยากนะครับ เอาว่าแต่งแล้วรู้จักความรับผิดชอบและความรักแก่กันที่ไม่ลดลงก็พอนะ

  • http://twitter.com/mart_eve mart_eve (@mart_eve)

    เอาไปดูซะ 555 ทำเป็นขายของไปได้ ตามหลักเศรษฐศาสตร์เลยนะบังจ๋า (ไม่ได้ประชดอะไรนะเอามาให้อ่านจริงๆ)

  • http://twitter.com/mart_eve mart_eve (@mart_eve)

    เอาไปดูซะ 555 ทำเป็นขายของไปได้ ตามหลักเศรษฐศาสตร์เลยนะบังจ๋า (ไม่ได้ประชดอะไรนะเอามาให้อ่านจริงๆ)

  • we_all_live_and_die

    การให้สินสอดเป็นหนึ่งในประเพณีที่คร่ำครึที่สุด
    จะยกเลิกมันตั้งแต่รุ่นเราเลย รวมทั้งการจัดงานแต่งที่ต้องไปยืนยิ้มรับแขกด้วย

    เราไม่แต่งค่ะ อยู่ด้วยกันมานานแล้ว

  • Udomsak

    ช่วย run fis. ให้ดูหน่อยครับ หา EIRR XIRR ROI NPV

    • TIF

      ถ้าผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวยอม ก็ไม่มีปัญหาครับ :)

  • Udomsak

    ช่วย run fis. ให้ดูหน่อยครับ หา EIRR XIRR ROI NPV

  • pattamaporn

    ชอบค่ะ ชอบ เพิ่งเรียน mab เศษ จบไปตัวนึงค่ะ ตอนเรียน เบื่อและงงมาก สอนอารายเนี่ย แตาพอมาอ่านบทความนี้แล้ว อ๋อ ขึ้นมาทันที่ค่ะ อิอิ

  • pattamaporn

    ชอบค่ะ ชอบ เพิ่งเรียน mab เศษ จบไปตัวนึงค่ะ ตอนเรียน เบื่อและงงมาก สอนอารายเนี่ย แตาพอมาอ่านบทความนี้แล้ว อ๋อ ขึ้นมาทันที่ค่ะ อิอิ

  • http://kaebmoo.wordpress.com kaebmoo

    ๘ แสน ! ที่รักจ๊ะ รักพี่ต้องหนีพ่อ ไปกัดก้อนเกลือกินกันเถอะ

  • http://kaebmoo.wordpress.com kaebmoo

    ๘ แสน ! ที่รักจ๊ะ รักพี่ต้องหนีพ่อ ไปกัดก้อนเกลือกินกันเถอะ

  • http://kaebmoo.wordpress.com kaebmoo

    โปรแกรม คำนวณค่าสินสอด http://dl.dropbox.com/u/29194703/CalcBridePrice.zip
    โดยคุณนพดล จาก nanosoft

  • http://gravatar.com/roseishtar roseishtar

    ใช่ค่ะ “สินเชื่อเงินสด รถคุณช่วยได้” …… ลดต้น ลดดอก ….. (ก๊อปมาจากโฆษณา) ^_^”

  • pim

    ข้าพเจ้าอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยพอดี

  • pim

    ข้าพเจ้าอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยพอดี

  • http://www.nana.freekrub.com/c007.php thoth

    ทำโปรแกรมคำนวณสินสอด ออนไลน์ ไว้ที่
    http://www.nana.freekrub.com/c007.php
    ครับ

  • http://www.nana.freekrub.com/c007.php thoth

    ทำโปรแกรมคำนวณสินสอด ออนไลน์ ไว้ที่
    http://www.nana.freekrub.com/c007.php
    ครับ

  • บ่จีุ

    งง งง มันดูขัดๆรู้สึกยังไม่ครอบคลุมนะ ต้องปรับแก้ต่อยอด

    • Bhasu Ruamkhuamkhit

      อันนี้ใช่ครับ ต้องลองไปอ่านในเวอร์ชั่นเต็ม และเข้าใจวิธีการพอสมควร ถึงจะมองเห็นข้อบกพร่อง เท่าที่ทราบเนี่ย เค้าเอามาจากบทคัดย่อ และก็สรุปเลย เข้าใจว่าคนส่วนใหญ่ชอบอะไรสั้นๆ แต่น่าจะลองอ่านแบบเต็มนะครับ ที่ห้องสมุดนิด้าจะมีอยู่ครับ

  • this is game.

    ผู้ชายเกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่ ไม่ต้องทดแทนบุญคุณพ่อแม่เหมือนผู้หญิง พวกเราเลยจำเป้นต้องจ่ายค่าสินสอด

    • คิดไรสั้นๆ?

      คิดอะไรโลกแคบอย่างนั้นครับคุณ? เพราะผู้หญิงแต่งงานกับคุณไปก็ต้องจากพ่อแม่ไปเลย ไปอยู่กับทางบ้านฝ่ายชาย หรือต่อให้ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ฝ่ายชาย เธอก็ต้องเปลี่ยนนามสกุลไปเป็นคนของบ้านคุณ ตั้งท้องลูกคุณซึ่งจะเกิดออกมาใช้นามสกุลของคุณอีก ในเมื่อทางโน้นมีแต่เสียกับเสีย คุณก็ให้เขาไปเถอะครับ เขาอุตส่าเลี้ยงดูถนุถนอมลูกสาวเขามาอย่างดี จะมาพาตัวเขาไปจากพ่อแม่ ก็ต้องมีหลักประกันว่าจะดูแลเขาได้ และตอบแทนที่พ่อแม่เขายอมยกเขาให้เรานะครับ

      • มีหี

        กฏหมายเค้าใช้นามสกุลฝ่ายหญิงได้แล้ว คุณไปอยู่ไหนมาคะ

        • bb

          ปัญหาไม่ได้เกี่ยวกับว่ากฎหมายเป็นยังไง แต่อยู่ที่สิ่งที่ฝ่ายชายควรกระทำบ้าง มิใช่เป็นผู้รับฝ่ายเดียวค่ะ

          • bebnz

            สิทธิเท่าเทียมกันแล้วไม่ใช่หรือครับ

          • เตย

            ถ้าเท่าเทียมกันแล้วงั้นเวลามีลูกสองคน คนนึงต้องใช้นามสกุลฝ่ายหญิงนะค่ะ ด้วยความเท่าเทียมกันนามสกุลฝ่ายหญิงก็ควรได้สืบทอดต่อไปไม่ต่างกับฝ่ายชาย ถ้าทำไม่ได้ก็แสดงว่าไม่ได้มีความเท่าเทียบกัน เพราะฝ่ายชายหวังแต่จะได้ฝ่ายเดียว

          • แต่งงานเพื่ออะไร

            ถ้ามันเรื่องเยอะนักก็ต่างคนต่างอยู่เถอะครับ ชีวิตทำไมเงื่อนไขเยอะจัง

          • แนน

            ความเห็นส่วนตัว เท่าเทียมกัน ถ้ามีลูก ผู้หญิงไม่คลอดได้ป่ะ ผลัดกันอุ้มท้องคนละเดือนได้ป่ะ ถ้าจะให้เท่าเทียมกันขนาดนั้น

          • ฉาดดดด

            สาวๆแถวนี้ดูอารมณ์เสียมากๆเลยนะครับ ดีแล้วครับ แต่งงานไปลูกผัวนี่คงตาย

          • 55+

            ถ้าทำได้ นะครับ แหม่ ออกความคิดเห็นนี่ไม่ใช้สมองคิดเลย

            ถ้ามีลูกแล้วลำบากขนาดนั้นก็อย่ามีสิครับ แค่มีลูกยังเกี่ยงกับสามีจะให้อุ้มท้อง ตลกดี

      • พูดมาได้

        ผมว่าข้อตกลงอะไรก็ไม่เท่า ความเข้าใจซึ่งกันและกันมากกว่า ที่ว่าผู้หญิงแต่งงานแล้วต้องจากพ่อแม่ไป มันคงไม่เสมอไปหรอก อย่างผมตอนนี้มาอยู่บ้านแฟน เหนือกับใต้ ได้กลับบ้านปีละคร้ง บางปีก็ไม่ได้กลับ ที่ว่ามีแต่เสียกับเสียมันเสียตรงไหนขอถามหน่อย ผู้หญิงบางคนพอแต่งงานไป อยู่บ้าน ทำงานบ้าน แต่งตัวสวย เดินช๊อปปิ้ง ในขณะเดียวกันคนเป็นสามีต้องทำงานหาเงินตัวเป็นเกลียว ตากแดดหน้าดำ แล้วอย่างนี้ยังจะว่าผู้หญิงมีแต่เสียกัยเสียอีหรอครับ

      • Foxie L. Stargirl

        กรี๊ดดดด ไม่อยากได้สินสอด แต่ หัวใจคุณหล่อ มากค่ะ

    • หึหึ

      คิดกลับกัน ฝ่ายสาวถูกเลี้ยงมาเป็นคนใช้หรอคะ แต่งงานแล้วต้องไปทำทุกอย่างในบ้าน ดูแลทุกคนในครอบครัวฝ่ายชาย แล้วมีโอกาสตอบแทนพระคุณพ่อแม่ตัวเองน้อยลง หรืออาจจะแทบไม่มีเวลากลับไปหา หลายคู่นะที่สินสอดพ่อแม่ไม่ได้สักบาท และผู้หญิงกับผูายก็ช่วยกันเก็บช่วยกันกา เขาแค่ให้หนุ่มสาวขยันทำมาหากินเก็บเงินไปตั้งหลักกันได้ค่ะ….. อย่างน้อยพ่อแม่ก็อุ่นใจ ลูกมีเงินก้อน. เวลาฉุนเฉินก็จะได้ไม่เดือดร้อน….!! สรุปแล้ว ผู้หญิงเกิดจากกระบอกไม้ไผ่ปะคะ ไม่ต้องทดแทนบุญคุณพ่อแม่เหมือนที่คุณบอก!

      • ดร.J

        เห็นด้วยค่ะ ผู้ชายชอบคิดเห็นแก่ตัวอย่างไรก็อย่างนัั้น

        • 222

          อย่าเอา ผู้ชายมาทำสามีนะครับ มองโลกให้กว้างหน่อย

      • ควาย

        ผู้หญิงไปทำทุกอย่างในบ้านเอามาจากไหนครับ หลุดมาจากสมัยไหน เดียวนี้ชายหญิงเท่าเทียมกัน ทำทุกอย่างร่วมกันรู้จักแบ่งความรับผิดชอบ

        สงสัยโดนสามีกดขี่บ่อยสินะครับ แหม่ อย่างน้อยพ่อแม่ก็อุ่นใจลูกมีเงินก้อน แล้วทำไมคุณพ่อคุณแม่ไม่ออกเงินช่วยละครับ ให้แต่ฝ่ายชายออกเงินก้อน กรุละขำ

        แล้วผู้หญิงไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ ฝ่ายชายก็ไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ ควรจะต้องหารค่าสินสอดคนละครึ่งป่ะครับ ???

        สมองนี่ไม่คิดเลยเนอะ

  • ปราการ ด่านสุดท้าย

    เสดสาดนี่น่าสนุก //นอกเรื่อง 5555

  • Tops Supermaket

    ไม่เห็นต้องคำนวนให้ยุ่งยาก อยู่ที่การตกลงของสองฝ่ายมากกว่า

  • Mystic Neverland

    ประสาทรับประทาน แค่เรืองสินสอดทองหมั้นต้องใช้สมการล็อกการิทึมมาคำนวน หลักสูตรเศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิตมันมั่วไร้สาระแบบนี้นี่เอง เศรษฐกิจประเทศตอแหลมันถึงห่วยแตกแบบทุกวันนี้ ช่างเป็นการแปรผันตามที่สอดรับกันได้อย่างสมบุรณ์แบบ

    • 123654789

      แสดงว่านายก็จบจากสถาบันโง่ๆมาละสิ

      • Mystic Neverland

        วิจารณ์แสดงความคิดไม่เห็นด้วย แสดงว่าจบจากสถาบันโง่ๆมา ตรรกะโง่ๆจากสถาบันฉลาดที่ไหนนี่? จะด่าจะว่าจะไม่เห็นด้วย ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่ช่วยมีเหตุผลประกอบด้วย หรือว่าใช้เหตุผลไม่เป็นก็บอกมา จะได้รู้ว่าสถาบันฉลาดเค๊าเรียนกันแบบนี้

        • เฮ้อ

          ก็พูดไม่ดีเองนี่ EQ ต่ำเองอะคุณ โง่บัดซบ

          • ผ่านมา

            เค้าพูดในระดับที่ไม่ได้เจาะจงด่าใครครับ ว่าแบบภาพรวม ไม่ใช่เหมือนคุณที่อยู่ดีๆ ก็ไปเหยียดเค้าไอ่เหี้ย

    • Nonpol

      ผมคิดเหมือนคุณเลยครับ แค่ค่าสินสอดมันจะอะไรหนักหนา โคตรไร้สาระ

  • รณพีร์

    ผมจะไปลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง เดี๋ยวนี้เลย ^^

  • จัน

    ไม่ต้องแต่งแม่งละ เงินจะกินยังไม่มีเลย

  • อ่านผ่านๆ

    R Squared ไปไหน…..?

  • Apisit Chaidee

    ถ้าเป็นไปตามข้อสรุปนี้ ยิ่งแก่ยิ่งสินสอดแพงหรอ เสี่ยงคานยิ่งกว่าเดิมอีกนะ

  • เหอะเหอะ

    คิดไรมาก ผู้ชายนะเอาคนที่มีความรับผิดชอบ ก็เพียงพอแล้ว อย่าตั้งที่สินสอดเลยเพราะบ้านฝ่ายชายบางบ้านก็มักใช้คำว่า อยากแต่งก็ออกเองสิ 555 เจอมาล่ะ

  • ท็อฟฟี่

    ไม่แต่งดีกว่า… กว่าจะหาเงินได้มันยากเย็นนัก
    ถ้าร่วมทางช่วยเหลือกันมานานก็ว่าไปอย่าง
    คบกันสัก 18 ปี ค่อยแต่งก็ดีเหมือนกัน

  • Sudej Utcharoen

    สรุปตอนนี้จะแต่งานกันไม่ได้ใช้ความรู้สึกล่ะ
    กลายเป็นเรื่องความมั่นคงการใช้ชีวิตในอนาคตไปซ่ะงั้น

  • Design

    ถ้าผุ้หญิงไทยคิดแบบนี้ ไปหาผัวรวยๆแบบเจนนี่ แบบเจ้าสัวไฮโซ ลูกทายาททั้งหลายเถอะ

  • Kaizer

    อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลี … มีสินสอดไหมครับ

    สาเหตุที่ผู้หญิงไทยแต่งงานช้าลง ขึ้นคานมากขึ้น ส่วนหนึ่งผมมองว่าค่านิยมนี้ก็มีส่วนเช่นกัน

    • ทำให้เข้าใจ

      เอ่อ ขอโทษนะคะ ต่างประเทศเขาไม่มีเรียกสินสอดกัน
      แต่หย่ากันที ศาลเขาเอียงไปทางฝ่ายหญิง ส่วนผชหมดตัวนะคะ 5555

      • Dan

        กฎหมายต่างประเทศ หย่ากันก็แบ่งทรัพย์สินสมรสคนละครึ่งเหมือนประเทศไทยนี่แหละครับ คุณไปเอามาจากไหนว่าศาลต่างประเทศเอียงไปทางฝ่ายหญิง???

      • Ayi Zaa

        ประเทศไหนรึ ?

      • Suki

        ศาลไม่เอียงขนาดน๊านนนนน ถ้าหย่าปกติก็จบ จ่ายค่าเลี้ยงดูก็ว่าไป ตามแต่ตกลงกัน

        ถ้าฟ้องหย่าก็ว่าไปตามเหตุ

        เช่น ฝ่ายชายนอกใจ

        ก็ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ค่านู่นค่านี้ ว่ากันไป

        ศาลก็ว่าไปตามจริง แต่ก็ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายหญิงขนาดนั้นนะ เว่อร์ไป๊

    • thai student

      ที่เกาหลีฝ่ายชายต้องซื้อบ้าน หรือมีบ้านค่ะ
      ส่วนทางฝรั่งเศสไม่มีสินสอดค่ะ
      รู้เท่านี้ค่ะ :)

  • chin

    เมียยิ่งเด็กสินสอดยิ่งถูก ชอบๆ

  • เย็ดตูด

    เรามาแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันเองเถอะ จะได้หมดปัญหา

  • pepe

    ค่าสินสอดคืออะไร? คือเงินค่าเลี้ยงดูลูกสาวจากเล็กจนโตกระทั่งแต่งงานกับฝ่ายชาย? แล้วพ่อแม่ฝ่ายชายล่ะควรได้สินสอดจากฝ่ายหญิงด้วยหรือไม่? หากฝ่ายชายจ่ายให้ฝ่ายหญิง(พ่อแม่ฝ่ายหญิง) เป็นการซื้อตัวหรือเปล่า? / เมื่อแต่งงานมาอยู่ด้วยกัน ฝ่ายชายเป็นผู้หารายได้และจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้านเป็นหลักอยู่หรือเปล่า? ฝ่ายหญิงที่ยังทำงานช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้านมากน้อยแค่ไหน? แล้วงานบ้านที่จะต้องดูแล(กวาดถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า เลี้ยงลูก) ฝ่ายหญิงรับผิดชอบทำในสัดส่วนที่มากกว่าฝ่ายชายมากหรือไม่? หรือบอกว่าฝ่ายหญิงก็ทำงานมาเหนื่อยเหมือนกันดังนั้นฝ่ายชายควรช่วยทำงานบ้าน? ถ้าอย่างนั้นสินสอดไม่ควรมีหรือไม่เพราะชายหญิงมาอยู่ด้วยกันฝ่ายชายไม่ได้ประโยชน์จากการจ่ายนั้นเลย (ขอตัดประเด็นเรื่องความรักความเอาใจใส่ในตัวอีกฝ่ายออกนะเพราะ ชายก็รักหญิง หญิงก็รักชายอยู่แล้ว อยู่ด้วยกันก็มีความสุขทั้งคู่) จะมีประเด็นก็คือหากฝ่ายหญิงมีลูกจะมีความลำบากในการท้องและคลอดลูกซึ่งประเด็นนี้ไม่เถียงครับว่าควรได้รับการดูแลและชดเชย แต่คนที่ไม่มีลูกล่ะ / คิดว่าสมัยก่อนฝ่ายชายจ่ายสินสอดให้ฝ่ายหญิงเพื่อแต่งงานให้เข้ามาในบ้านแล้วมาช่วยงานบ้านทำกับข้าวดูแลลูก ดูแลสามีและครอบครัว พ่อแม่ฝ่ายหญิงเสียฝ่ายหญิงที่จะดูแลตนเองไปให้ผู้ชายจึงมีการจ่ายชดเชยให้เป็นสินสอด แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนแล้วผมว่าถ้ายุติธรรมไม่ควรมีสินสอดแล้วนะ ^^

    • Peeyapat

      รู้สึกว่าธรรมเนียมไทยเดิมมันคือ พ่อแม่ฝ่ายหญิงฝ่ายชายลงนะ แล้วให้คู่บ่าวสาวทั้งคู่ เหมือนไปตั้งตัว คือมันจะมองเหมือนกับว่าฝ่ายชายมาให้ฝ่ายหญิง แต่คือสุดท้ายพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็จะเพิ่มให้แล้วก็ยกให้ลูกสาว ซึ่งลูกสาวก็เอาไปใช้กับชีวิตแต่งงานกะฝ่ายชายต่อไปนั่นแหละ ที่ผ่านมาในครอบครัวเป็นแนวคิดแบบนั้นค่ะ (ยกเว้นพ่อแม่ฝ่ายหญิงงก ริบหมด หรือฝ่ายหญิงงก ไม่ยอมยกให้ฝ่ายชาย เอาไปซื้อกระเป๋าหมด)
      ถ้าจะเอาเปรียบใคร คงเอาเปรียบพ่อแม่เรากันมากกว่า แต่ว่าสังคมไทยเดิมก็ค่อนข้างเน้นเรื่องกตัญญู ต่อไปก็ดูแลพ่อแม่คืน มันอาจจะทำให้รู้สึกกังขากันน้อยลงถ้าพ่อแม่ของใครย้ายมาอยู่ด้วยก็ได้นะคะ เช่นว่า ถ้าพ่อแม่ฝ่ายชาย/ฝ่ายหญิงย้ายมาอยู่ด้วยตอนแก่ตัวลง เราก็รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเค้าอยู่แล้วก็จะไม่มีปัญหาแบบ กีดกันแม่ยายน่าสงสารแบบในละคร

    • :P

      สินสอด คือ สินที่ให้เพื่อสอดครับ….

    • bobo

      เห็นด้วยนะคะ เพราะสมัยนี้ต่างจากสมัยก่อนเยอะ
      เพราะเดี๋ยวนี้ผู้หญิงก็ทำงานนอกบ้านเหมือนฝ่ายชาย
      งานในบ้านก็ช่วยๆกันทำ ดีกว่าผลักให้ฝ่ายใดฝ่าหนึ่งทำ

      แต่ส่วนหนึ่งมันเป็นด้วยวัฒนธรรมไทยมาแต่ช้านาน
      จะไปเปลี่ยนฉับไวก็ลำบากอีก

      แต่เห็นพ่อแม่หลายๆคู่นะ ที่เงินค่าสินสอดก็คืนให้ลูกๆ ไว้ใช้ตั้งตัว

  • Peeyapat

    ชอบไอเดียจัง ขอเสนอสองประเด็น
    1. น่าจะมีฟอร์มให้คนเพิ่มข้อมูลมาได้เรื่อยๆ เพราะตอนนี้เหมือนประเด็นจุดติดแล้ว คนรู้ว่าข้อมูลเอามาทำอะไร คนก็จะร่วมให้ข้อมูลมากขึ้น ผลลัพทธ์จะได้รับการสนับสนุนด้วยข้อมูลที่แน่นหนาขึ้น — ถ้าไม่ติดว่าเวลาในการถามต่างกัน (อาจะเพิ่มระยะเวลาให้กว้างขึ้น หรือแก้เงินเฟ้อ… แต่แก้เงินเฟ้อก็ไม่เหมือนแก้ความรับรู้ของคนต่อเงินเฟ้อ….)
    2. รู้สึกตัวแปรหนึ่งที่น่าจะสำคัญที่สุดตกไป นั่นคือฐานะ/เงินเก็บของพ่อแม่ รู้สึกว่าการแต่งงานในเมืองไทยเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นปัจจัยหลัก อารมว่าถ้าพ่อแม่ฝ่ายหญิงลงเงินค่าสินสอดให้เท่านี้ ฝ่ายชายก็ต้องเพิ่มไม่ให้แพ้กัน.. เพราะยังไงส่วนใหญ่เงินก็ให้คู่บ่าวสาวไปตั้งครอบครัว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แบบดูงี่เง่าเล็กน้อย แต่รู้สึกว่าจริงอยู่น้ะ

  • นัสรูส์ เจะนิ

    ดึงเกมงานแต่งงานออกไปนานๆผมว่าค่าสินสอดน่าจะลดนะ

  • Aungkan Olo

    วิธีทำให้มูลค่าของสินสอดลดลงเหลือไม่ถึง 50% คือการ ” เจาะไข่แดง” และถ้าเผอิญได้ผลิตผลตามมาด้วย มูลค่าของสินค้าจะลดลงเหลือแค่ 20 % หรืออาจมีจัดโปรโมชั่นแถมฟรี

    • Worada Elstow

      ค่าของ”คน” ตีได้ เพิ่มได้ ลดได้ ขนาดนั้นเลยหรอคะ คุณเป็น”ผู้ชาย”แต่คุณก็เป็น”คน”คงไม่อยากให้ใครมาตีค่าว่าถ้าคุณเป็นแบบนั้นหรือแบบนี้ค่าของคุณจะลดล “ผู้หญิง”ก็เป็น”คน” เหมือนที่คุณเป็น กรุณานึกถึงผู้หญิงว่าเค้าก็เป็นคนเหมือนกับคุณด้วยนะคะ ปล. ดิฉันเป็นผู้หญิงมีความคิดเห็นคัดค้านการจ่ายและการเรียกค่าสินสอด เพราะสมัยนี้ผู้หญิงก็มีสมองมีความสามาถรในการหาเงินได้มากเท่าหรือมากกว่าผู้ชายเสียอีก เพราะฉะนั้นการที่ผู้หญิงที่มีความสามารถพอเรียกค่าสินสอนถือเป็นการดูถูกตัวเอง … เพราะฉะนั้นกรุณาอย่าว่ากลับนะคะว่าดิฉันเห็นแก่ผู้หญิงอย่างเดียว ดิฉันเข้าข้างความเท่าเทียมของ “คน”

      • ผ่านมา

        @woradaelstow:disqus ถึงคุณจะคัดค้านเรื่องการจ่ายและการเรียกค่าสินสอด แต่สุดท้ายคนตัดสินใจเรื่องสินสอดก็ยังเป็นผู้ใหญ่อยู่ดีนะครับ บางคู่เป็นแฟนรักกันมานานเกือบ 10 ปี แต่ตอนจะแต่งงานสุดท้ายเรื่องสินสอดทางพ่อแม่ฝ่าย ญ ไม่โอเคซะที แล้วก็ยืดเยื้อเกือบปีกว่าจะตกลงได้ คือถ้ารักกันจริงคู่ที่จะแต่งงานไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่หรอกครับเรื่องสินสอด เพราะถ้ารักกันจริงๆเรื่องสินสอดคงตกลงกันไม่ยากสำหรับฝ่ายชายและหญิง แต่ที่จะมีปัญหาอยู่ที่ผู้ใหญ่ซะมากกว่า

      • Deeper Kyo

        คุณค่าของคนมันวัดได้ครับ ด้วยความอดทนและปัญญา
        ถ้าเป้นพวกที่มักง่าย ใจเร็ว ทำอะไรไม่รู้จักคิด คุณค่าก็หมดไป

        บอกเข้าข้างความเท่าเทียม ของ คน
        ตอนแรกก็เห็นบอกผู้หญิงบางคนทำเงินได้มากกว่าผู้ชาย

        ถ้ามองเรื่องความเท่าเทียม
        ทำไมคุณถึงไปพูดเรื่องใครทำอะไรได้มากกว่าอีกฝ่าย?

        นี้คุณจะเอายังไงกันแน่ครับ?
        ถ้าพูดถึงความเป้นคน มันไม่จำกัดคำว่าเพศชายหญิงแล้ว
        มันอยู่ที่พฤติกรรม ปัญญา และ จิตใจต่างหาก

        หรือว่าคุณค่าของคนไปวัดกันที่เพศไหนทำเงินได้มากกว่ากัน อย่างที่คุณอธิบาย??

        คำพูดคุณมันคัดแย้งจนรู้สึกว่า
        พูดเอาโลกสวยเข้าว่านะครับ จะอ้วก

        • ผ่านมาอ้วก

          ใครกันแน่คะโลกสวย คุณบอกว่าพวกที่มักง่าย ใจเร็วทำอะไรไม่รู้จักคิดคุณค่าจะหมดไป คุณต้องการบอกว่าผู้หญิงโดนเปิดซิงคุณค่าหมดทันทีเหรอคะ ผู้ชายผ่านมาไม่รู้กี่คนไม่เห็นมีใครว่า แล้วผู้หญิงส่วนใหญ่ก็อยากเสียซิงให้คนที่จะแต่งงานด้วยกันทั้งนั้น แต่ผู้ชายมันมักง่ายได้แล้วทิ้งไงคะ ทีนี้กลายเป็นผู้หญิงหมดค่าทันที? และผู้ชายมักง่ายพวกนั้นก็ยังมาลอยหน้าลอยตาตอบคอมเม้นแบบคุณนี่แหล่ะค่ะ เรื่องสินสอดไม่ค่อยมายด์มาก แต่เห็นผู้ชายมักง่ายแล้ว ขยะแขยง จะอ้วก

        • bobo

          คุณค่าของคนมันวัดได้ครับ ด้วยความอดทนและปัญญา
          ถ้าเป้นพวกที่มักง่าย ใจเร็ว ทำอะไรไม่รู้จักคิด คุณค่าก็หมดไป
          …….
          งั้นผู้ชายเกิน 90% คงหมดคุณค่าไปแล้วใช่มั้ยคะ
          เอาตรรกะแบบ ผู้ชายเอาได้ไม่เสียหาย แต่ผู้หญิงจะมีค่าต่อเมื่อบริสุทธิ์เท่านั้น ออกไปเถอะคะ
          มันทำให้เห็นความโลกแคบ เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้
          งั้นผู้ชายก็รบกวนหัดมีความยับยั้งชั่งกันกันด้วยนะคะ
          อย่าผลักแต่ภาระให้ผู้หญิงฝ่ายเดียว

          ว่าแต่ว่า ใครกันแน่โลกสวย จะอ้วกกกก

    • Sapol Sarasuddhi

      แถมลูกกระสุน อ่ะนะ?

  • wk

    แต่งงานแล้วเป็นหนี้… แน่นอนครับถ้าคิดแบบคุณ

  • คนกลัวภรรยา

    ผมไม่เคยเห็นถึงความสำคัญของการคำนวนค่าสินสอดเลย เพราะผู้ชายเองคือตัวแปรสำคัญที่ผันแปรระดับค่าสินสอดเองต่างหาก ยกตัวอย่างวิธีง่ายๆนะครับ
    1.หาภรรยาที่แก่ๆฐานะดีๆประเภทแม่ยกเลี้ยงดูเราได้ ผลที่จะตามมาเยอะครับมีแต่ได้กับได้
    2.หาภรรยาเด็ก รีบรวบหัวรวบหางซึ่งเป็นการถือไพ่เหนือกว่า ต่อรองค่าสินสอดฝ่ายตรงข้ามได้ อาจจะโดนข่มขู่กรณี พรากผู้เยาว์แต่มันจะผ่านไปด้วยดี
    3.หาภรรยาโดยการพาหนี สองสามปีค่อยพาลูกสาวมาขอขมาพ่อแม่เ้ขา ยิ่งมีหลานตัวน้อยๆน่ารักๆด้วยนะแหม…ยังไง เค้าก็รักลูกเขาตัดกันไม่ขาดหรอกครับ
    4.หาภรรยาอินเดียอันนี้เราเองได้ค่าสินสอดอีกต่างหาก
    5.หาภรรยาสาวประเภทสอง ซึ่งส่วนมากจะอยู่กินกันเลยไม่ได้ตกไม่ได้แต่งอะไร
    6.หาภรรยาจากการแชทออนไลน์ อาจจะอยู่กินกันไม่ยาวหรือแบบประเภทฉาบฉวย
    7.หาภรรยาน้อย อันนี้ไม่ได้ห้ามนะครับ แต่แนะนำให้ระวังตัวกันหน่อยเพราะมีความเสี่ยงถึงเสียชีวิต

  • ปิ่นโกะ

    โชคดีของเราแท้ๆ ที่เจอผู้ชายยอมรับอะไรที่คร่ำครึ อ่านคอมเม้นท์แล้วต้องรีบแต่งเลย เดี๋ยวเจอผู้ชายหัวสมัยใหม่ 555555

  • Pingback: อยากรู้มั้ย? สินสอดของเราควรเป็นเท่าไร?? ถามแอพ “สินสอดของฉัน” สิ!

  • กัลเลาะ เซราะกราว

    ยิ่ง นานวัน ค่าสินสอดยิ่งแพงขึ้น ทำให้ผู้ชายบางคนสู้ค่าสินสอดไม่ไหว

  • พี่แม็ก ไม่หื่น นะจ๊ะ

    ที่มันมีปัญหาเพราะว่าสินสอดมันไม่ใช่ปัญหาของคู่รักไงครับ แต่มันเป็นปัญหาของทางผู้ปกครอง ถ้าแค่รักกันแล้วออกไปครองคู่กัน เรื่องมันก็จบ แต่ในความเป็นจริงไม่มีสินสอดก็แต่งตามประเพณียาก ยิ่งสภาพอย่างปัจจุบันมันทำให้ผู้ชายต้องเลือกว่าจะเอา “เงิน” หรือ “ความรัก” เพราะมันตกอยู่ในสภาพปากกัดตีนถีบกันหมด ค่าสินสอดเลยกลายเป็น “ภาระอันหนักอึ้ง” มากกว่า “บทพิสูจน์” เรื่องก็คือไม่มีใครอยากแบกปัญหา โดยเฉพาะปัญหาที่มันเกินกว่าความสามารถของตนเอง ความรักอย่างเดียวมันไม่เพียงพอสำหรับชีวิตคู่อีกต่อไปแล้วครับในปัจจุบัน

  • dee007

    การคิดคำนวณแบบนี้ก้เวอร์ไปโลกจริงๆไม่ได้แบบนี้ ความรักเชื่อใจและพร้อมสร้างเป้าหมายบานะด้วยกันสำคัญที่สุด

    ————– แต่จริงๆก็ถูกหลายส่วนหลายคนยังไม่พร้อมแต่งเพราะเรื่องต้องเอาใจหน้าตาผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย และสังคมญาติผู้ใหญ่(ซึ่งผู้ใหญ่และญาติๆสองฝ่ายก็มองเรื่องเงิน ฐานะ อาชีพรายได้สำคัญกว่า) เวลาเมื่อไปเยี่ยมญาติฝ่ายไหนก้ตามก้จะถามคุยเรื่องงาน อาชีพ โน่นนี่ไปถึงจะมีลูกเมื่อไหร่ยัง แต่ไม่รู้หรอกว่ารายจ่ายจะพุ่งมาภาระจะโถมมาแบไม่พร้อม ทุกวันนี้รายได้แค่หลักหมื่นถือว่าน้อยที่จะสร้างครอบครัว ><
    บางคนแต่งเร็วเพราะพร้อมมากกว่าและทางบ้านมีฐานะ หลายคนอยากแต่งจัดงานให้วิเศษเพื่อคนที่รักแต่ก็ติดเรื่องเงินรายจ่ายหนี้สินอื่นๆทำให้ไปถึงเป้าหมายนานยากกว่า ..เงินสำคัญจริงๆรวมๆแล้ว